รีวิว Star Wars The Rise of Skywalker

Star Wars The Rise of Skywalker

Star Wars The Rise of Skywalker ถูกจัดวางให้หมุนกลับสู่สิ่งที่เป็นแก่นกลางของ Star Wars เสมอมา นั่นคือ “ครอบครัว” และ “ตัวตน” ไม่ว่าจะเป็นอนาคินในไตรภาคต้น ที่ถูกกำหนดโดยคำทำนายว่าคือผู้ถูกเลือก ลุคในไตรภาคดั้งเดิมที่ต้องค้นหาความจริงเกี่ยวกับพ่อ และเอาชนะความมืดภายในตัวเอง หรือเรย์ในไตรภาคใหม่ที่ต้องการรู้เพียงว่าตนเองเป็นใครในจักรวาลอันกว้างใหญ่

ภาคนี้ยิ่งตอกย้ำประเด็นว่า “สายเลือดเป็นเพียงกิ่งหนึ่งของต้นไม้ แต่ความหมายที่เราเลือกต่างหากคือสิ่งเติบโตจากราก” การเดินทางของเรย์คือเส้นเรื่องที่ลากตัวเองจากการเป็นเด็กกำพร้าที่ไม่รู้ว่าพ่อแม่เป็นใคร ไปสู่การเป็นคนที่ค้นพบว่าแม้เธอจะมาจากสายเลือดที่ชั่วร้ายที่สุดของจักรวาล แต่เธอสามารถเลือกสร้างความหมายใหม่ของตัวเองได้ การที่เธอเลือกใช้นามสกายวอล์คเกอร์ในตอนท้าย ไม่ใช่ความพยายามแอบอ้างตระกูล แต่เป็นการเคลมสิทธิ์เหนือชะตาชีวิตที่ตัวเองเลือกเช่นเดียวกับที่ลุคเคยทำในวันหนึ่ง และทั้งหมดนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นถ้าบทสรุปของสงครามระหว่างอำนาจนิยมกับเสรีชนไม่เข้าใกล้จุดจบในภาคนี้

หนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดและเป็นหัวใจของรีวิวนี้คือการกลับมาของพัลพาทีน เขาไม่ใช่เพียงตัวร้ายที่หนังนำกลับมาเพื่อสร้างความอลังการ หากเป็น “สัญลักษณ์ของระบอบอำนาจนิยม” ที่ฝังรากลึกในจักรวาลตลอดหลายทศวรรษ พัลพาทีนไม่เคยเชื่อในประชาชน ไม่เคยเชื่อในเสรีภาพ เขาเชื่อเพียงว่าความกลัวเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุด เขาสร้างอาวุธใหญ่โตเพื่อประกาศให้เห็นว่าใครมีสิทธิ์อยู่เหนือใคร เขาสร้างเรื่องเล่าเพื่อทำให้ผู้คนเชื่อว่าการต่อต้านคือความผิดปกติ เขาสร้างภาพลักษณ์ว่าตนเองคือผู้พิทักษ์จักรวาล ทั้งที่แท้จริงคือผู้บงการทุกความโกลาหลในกาแล็กซี่ กองทัพ Final Order คือสิ่งตอกย้ำว่าระบอบเผด็จการไม่เคยตายจริง ๆ แม้โครงสร้างจะล่ม แต่เมล็ดพันธุ์ของความกลัวและความหลงอำนาจจะยังฝังอยู่ในผู้คนบางกลุ่ม และพร้อมจะฟื้นคืนอำนาจเสมอเมื่อมีเงื่อนไขเหมาะสม ที่สำคัญพัลพาทีนคือชายชราที่ไม่เคยยอมรับความตายของตัวเอง เหมือนผู้นำเผด็จการหลายคนในโลกจริงที่ยืนกรานว่าตนคือผู้กอบกู้ชาติ ทั้งที่ความจริงคือผู้ทำลายอนาคตของประเทศอย่างเงียบงันผ่านความกลัวที่ตนเองสร้างขึ้นอย่างเป็นระบบ

การเดินทางของเรย์เต็มไปด้วยความลังเล รอยแผลทางอารมณ์ และความหวาดกลัวว่าจะกลายเป็นอย่างปู่ของตนเอง แต่ในที่สุดเธอค้นพบว่าความมืดที่อยู่ในตัวเธอจะไม่กำหนดเธอถ้าเธอไม่เลือกมัน จุดที่ภาพยนตร์สวยงามที่สุดไม่ใช่ฉากต่อสู้ แต่เป็นการประกาศตัวของเรย์ว่า “ฉันคือสกายวอล์คเกอร์” เพราะนั่นคือคำประกาศอิสรภาพที่ทรงพลังที่สุดในไตรภาคนี้ เส้นเรื่องของไคโล เร็นคือหนึ่งในองค์ประกอบที่แข็งแรงที่สุดของไตรภาคใหม่ เขาไม่ใช่ตัวร้ายแบบซิธคลาสสิก แต่เป็นคนที่ถูกฉีกกลางระหว่างความมืดกับแสงสว่าง เป็นคนที่ต้องการการยอมรับจากใครสักคน แต่กลับหันหลังให้ทุกความรักเพราะความรู้สึกล้มเหลวของตัวเอง

การที่เขาต้องต่อสู้กับตัวตนของตัวเองมากกว่าต่อสู้กับใครในภายนอก ทำให้เส้นเรื่องของเขาเป็นภาพสะท้อนของมนุษย์ยุคใหม่ที่ต้องการการเยียวยามากกว่าการลงโทษ เปลี่ยนผ่านของเขาจากไคโล เร็นกลับสู่เบน โซโล ไม่ใช่ความพยายามง่าย ๆ ในการ “ไถ่บาป” แต่เป็นการยอมรับว่าเขาไม่สามารถเปลี่ยนอดีตได้ แต่สามารถเลือกทำสิ่งที่ถูกต้องในปัจจุบันได้ ท้ายที่สุดเขากลายเป็นสะพานที่เชื่อมเรย์ให้เข้าใจว่าเธอไม่จำเป็นต้องอยู่คนเดียว ไม่จำเป็นต้องเป็นเหยื่อของชะตาที่ถูกกำหนดไว้ และไม่จำเป็นต้องเป็นลูกของความมืดเงา

รูปแบบสไตล์หนังเรื่อง Star Wars The Rise of Skywalker

สไตล์หนังเรื่อง Star Wars The Rise of Skywalker ดำเนินเรื่องด้วยความเร็วสูงแบบยุคภาพยนตร์ปัจจุบัน การตัดต่อรวดเร็ว ฉากต่อสู้ปรากฏแทบทุกระยะเวลา และองค์ประกอบล้นจนแทบจะเป็นพิพิธภัณฑ์ของทุกไอเดียใน Star Wars แต่ในอีกมุม ความล้นนี้ก็สื่อถึงความตั้งใจของผู้กำกับที่อยากให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็น “จุดสรุปของทุกอย่าง” อย่างแท้จริง

ตัวหนังเต็มไปด้วยการเคารพอดีต ตั้งแต่ดนตรีที่ร้อยเรียงธีมของหลายทศวรรษ การคืนตัวละครอย่างลุค เลอา แลนด์โด้ ไปจนถึงฉากพิธีกรรมซิธที่ให้ความรู้สึกเหมือนการกลับไปสู่ตำนานยุคแรกเริ่มของซีรีส์ ในเชิงภาพหนังใช้ความอลังการแบบที่ผู้ชมยุคใหม่คาดหวัง แต่ยังคงกลิ่นอายแบบไตรภาคดั้งเดิม ทั้งในเรื่องขององค์ประกอบแสง ภูมิทัศน์ทะเลทราย ศิลปะเครื่องยนต์ และการสะท้อนอุดมการณ์ทางการเมืองที่ซ่อนอยู่แทบทุกซอกของเรื่องราว

สรุปรีวิวหนัง Star Wars The Rise of Skywalker

Star Wars The Rise of Skywalker ไม่ใช่หนังที่สมบูรณ์แบบ แต่คือหนังที่กล้าสรุปประเด็นสำคัญที่สุดของ Star Wars นับตั้งแต่วันแรกที่จอร์จ ลูคัสสร้างมันขึ้นมา ว่าตัวตนคือสิ่งที่มนุษย์ต้องสร้างเอง ความกลัวคือศัตรูที่อันตรายที่สุด และความหวังคือพลังที่ยิ่งใหญ่เหนืออำนาจใด ๆ อนาคินเคยตกสู่ความมืดเพราะความกลัว ลุคเคยล้มเหลวเพราะความสงสัยในตัวเอง ไคโลเคยหลงทางเพราะความคาดหวังที่กดทับ และเรย์เคยคิดว่าตัวเองไร้ค่าเพราะไม่มีที่มา แต่ทุกคนล้วนพบคำตอบเดียวกัน

ดูเพิ่ม

  • รีวิว ทรานฟอร์เมอร์ กำเนิดจักรกลอสูร

    รีวิว ทรานฟอร์เมอร์ กำเนิดจักรกลอสูร

  • รีวิว ก็อดซิลล่า ปะทะ คอง 2 อาณาจักรใหม่

    รีวิว ก็อดซิลล่า ปะทะ คอง 2 อาณาจักรใหม่

  • รีวิว Alien Romulus

    รีวิว Alien Romulus

  • รีวิว Avatar The Way of Water

    รีวิว Avatar The Way of Water

  • รีวิว Star Wars The Rise of Skywalker

    รีวิว Star Wars The Rise of Skywalker

  • รีวิว Tron 3

    รีวิว Tron 3

เว็บไซต์ดูหนังออนไลน์ฟรี